#การชี้สองสถาน คือ การที่ศาลกำหนดประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่นำสืบ (ภาระการพิสูจน์) ว่าคดีมีประเด็นข้อพิพาทอย่างไร และฝ่ายใดมีหน้าที่นำสืบ #โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้ยืมเงินโจทก์ สัญญากู้เงินเป็นเอกสารปลอม ดังนี้ ศาลจะชี้สองสถานโดยกำหนดประเด็นจำเลยกู้ยืมเงินไปจากโจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธ หน้าที่นำสืบหรือภาระการพิสูจน์จึงตกแก่โจทก์ #ข้อพิพาทว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไปตามคำฟ้องหรือไม่ ประเด็นนี้โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าแต่หากจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง แต่จำเลยชำระเงินตามที่กู้ยืมให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ดังนี้ ศาลจะทำการชี้สองสถานโดยกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยชำระหนี้เงินกู้คืนให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่ ประเด็นนี้จำเลยรับข้อเท็จจริงว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง แต่กล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ว่าจำเลยชำระหนี้เงินกู้คืนโจทก์แล้ว ดังนี้ หน้าที่นำสืบหรือภาระการพิสูจน์จึงตกแก่จำเลย เป็นต้น
#คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2509 ในวันนัดพร้อม ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า 'ประเด็นตกโจทก์นำสืบก่อนให้นัดสืบพยานโจทก์ 12 ก.พ. 06 เวลา 8.30 น. ดังนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นการชี้สองสถานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183
#ศาลนัดสืบพยานโจทก์ไว้ แต่เพราะโจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในวันนั้นศาลจึงสั่งนัดพิจารณาคำร้องและคู่ความขอเลื่อนการสืบพยานไปก่อนดังนี้ไม่ถือว่าวันนั้นเป็นวันสืบพยานโจทก์คำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องที่ยื่นในวันนั้นจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
#ทนายโตน #ทนายนนทบุรี-ศรีสะเกษ #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร #ตามคดีไม่มีทิ้ง #ติดต่อได้ตลอดเฉพาะ 08.00-20.00 #โทร.ไอดีไลน์ 0945241915 #https://tonelawfirm.com/ #Inspire #https://smartthaiattorney.com #สนง.นนทบุรี https://maps.app.goo.gl/wU9VDh2ZpqeAcV6D7
#สนง.ศรีสะเกษ https://maps.app.goo.gl/DPUhM9mZNcQo852s7